ตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ปี เราได้เรียนรู้กันแล้วว่ารูปแบบของการใช้ชีวิตหรือการทำงานนั้นถูกเปลี่ยนแปลงไป แต่การพัฒนายังไม่หยุดเพียงเท่านี้เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนในอีก 5 ปีข้างหน้าอย่างไม่ต้องแปลกใจเลย วันนี้เราจึงขอเอาใจแบรนด์ต่าง ๆ ด้วยไอเดียบรรเจิดที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ (The near future of technology) ซึ่งการคาดการณ์นี้เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภคชาวไทย รวมถึงสิ่งที่แบรนด์สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังต่อไปนี้
เทรนด์ไหนที่แบรนด์ยุคใหม่ต้องจับตามอง
1.วัฒนธรรมอินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริง (Virtual Genuinfluencer)
คำว่า Virtual Genuinfluencer ถูกใช้ครั้งแรกโดยบริษัทวิจัยการตลาดที่มีชื่อว่า WGSN โดยเพิ่มความหมายจากแค่ ‘อินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริง’ เป็น ‘อินฟลูเอนเซอร์เสมือน จริงใจและผู้ติดตามสามารถจับต้องได้’ โดยเทรนด์นี้เกิดเป็นกระแสมาจากแดนมังกร โดยเฉพาะ ‘Angie’ ที่มีชื่อเสียงอยู่ภายในแอปพลิเคชัน Douyin อินฟลูเสมือนนี้มีเอกลักษณ์และความโดดเด่นเพราะเรื่องที่จะนำเสนอ ความไม่สมบูรณ์แบบ (Imperfection) เช่น ผิวหน้าที่บางวันก็มีรอยสิว มีความแห้ง มีความไม่สมมาตรของหน้าทั้งสองฝั่ง ฟันไม่เรียงตัวสวยและการแต่งกายที่ธรรมดาทั่วไป Angie มักจะใส่เสื้อ ยืดสีขาวมากกว่าแบรนด์เนมหรูหรา
Angie มีผู้ติดตามกว่า 3 แสนคนแล้วช่วงต้นปี เพราะผู้คนถูกใจในความเหมือนจริงมากกว่าอินฟลูเสมือนคนไหน ๆ รายงานจาก The Guardian เผยว่ายุคนี้คำจำกัดความของอินฟลูเอนเซอร์ต่างออกไปเพราะไม่ได้เป็นเพียงผู้สร้างแรงบันดาลใจเท่านั้น ฟอลโลเวอร์ยังต้องการความจริงมากขึ้นอีกด้วย และแน่นอนว่าอินฟลูที่เป็นคนจริง ๆ ก็ต้องตามแนวความคิดนี้ด้วย
2. ยุครุ่งเรืองของซุปเปอร์แอปพลิเคชัน (Super Application)
เทรนด์นี้ก็มาจากจีนเช่นเดียวกัน โดยประเทศของเขาได้เป็นต้นแบบของการพัฒนาซุปเปอร์แอปพลิเคชัน ทำให้ประเทศต่าง ๆ ในโซนเอเชียต่างก็ต้องการผลักดันให้แอปพลิเคชันของตัวเองมีความครบครัน ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเรียกรถ การชำระเงิน อีคอมเมิร์ซหรือการทำธุรกรรมทางการเงิน
ยกตัวอย่างเช่นแอปพลิเคชันของประเทศอินโดนีเซีย ที่มีการเครื่องมือระหว่าง Gojek แอปพลิเคชันเดลิเวอรีและเรียกรถ กับ Tokopedia มาร์เก็ตเพลสที่ใหญ่ที่สุดในประเทศที่มีการให้บริการด้านธุรกรรมและโลจิสติกส์ ความสุดยอดของทั้งสองกลายเป็นแอปพลิเคชันใหม่ที่ชื่อว่า GoTo ในปัจจุบันมีผู้ใช้งานมากกว่า 100 ล้านคน และที่สำคัญกลายเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้แก่ประเทศกว่า 2%
นอกจากนี้ยังมีประเทศสิงคโปร์ที่กำลังผลักดันซุปเปอร์แอปฯ โดยการร่วมมือของ 2 แอปยักษ์ใหญ่อย่าง Grab แอปเดลิเวอรีและเรียกรถ กับ SingTel ผู้ให้บริการทางการเงิน ซึ่งกลายเป็นดิจิทัลแบงก์ร่วมกัน สำหรับในไทยก็มีความพยายามในการผลักดันหลาย ๆ แอป เช่น Line, Robinhood และ AirAsia
3.การท่องเที่ยวเชิงวิชาการ
เทรนด์ที่กำลังมาของธุรกิจฮอสพิทาลิตี้ คือการผนวกการเดินทางเข้ากับความเป็นวิชาการ โดยผู้ที่เป็นไกด์จะเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญสูง ช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์ดูมีสาระความรู้ ตัวอย่างของเทรนด์นี้ คือ ช่วงปีที่แล้วมีการร่วมมือกันระหว่างโรงแรมบนเกาะฮาวายที่มีชื่อว่า Hyatt Regency Maui Resort and Spa และองค์กรนาซา (NASA) มีการจัดกิจกรรมให้ผู้ที่สนใจดูดาวร่วมชมกลุ่มดาวกว่า 80 กลุ่ม ซึ่งไกด์นำเที่ยวก็คือแอมบาสเดอร์ของนาซา ผู้มีชื่อว่า Edward Mahoney ทำให้ผู้เข้าร่วมได้เปิดประสบการณ์ที่แปลกใหม่ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มที่ตอบสนองความต้องการด้านอื่น ๆ อย่างดนตรี ประวัติศาสตร์ สถานีวิทยุสาธารณะและเรื่องเฉพาะอื่น ๆ อีกมากมาย
เทรนด์ของกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ที่กำลังจะเป็นกระแสในอนาคตอันใกล้
เป็นอย่างไรบ้างสำหรับเทรนด์แห่งโลกอนาคตที่แบรนด์ต้องตามให้ได้ไล่ให้ทัน ในปี 2022 จะเห็นได้ว่าในหลายประเทศเริ่มมีการผลักดัน พัฒนาให้ตอบโจทย์กับโลกสมัยใหม่ที่มอบความสะดวกสบายและความครบครันให้แก่ผู้บริโภค นอกจากนี้ยังมีเทรนด์ของอินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริงที่ให้ความรู้สึกจริงใจ ที่แม้แต่อินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นคนจริง ๆ ก็ต้องจับตามอง